บริการประชาชน

เมนู

ผอ.ศรชล. มอบนโยบายพิทักษ์ทะเลไทย มุ่งเน้นสร้างเพื่อนเสริมมิตร กิจกรรมทางทะเล ที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ปลูกฝังการรักษ์ทะเลที่ยั่งยืน

วันที่ 8 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ได้มอบมายให้ นายสุทิน  คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) เป็นผู้แทน ผอ.ศรชล. ในการประชุมมอบนโยบาย/แนวทางการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรี/ผอ.ศรชล. โดยมี พลเรือเอก อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. และ รอง ผอ.ศรชล. พร้อมด้วยอธิบดีและผู้แทนหน่วยงานของ ศรชล. ทั้ง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงาน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้แทน จากจังหวัดชายทะเล 22 จังหวัด ในฐานะ ผอ.ศรชล.จังหวัด ข้าร่วมประชุมฯ ณ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ

ผบ.ทร./รอง ผอ.ศรชล. ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณ รมว.กห. ที่ได้มาเป็นผู้แทน ผอ.ศรชล. ในการมอบนโยบาย/แนวทางการปฏิบัติของ ผอ.ศรชล.ฯ ในวันนี้ พร้อมทั้งกล่าวถึงความเป็นมาและการปฏิบัติของ ศรชล.ที่ผ่านมาว่า ศรชล.ได้จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 มีฐานะเป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะ มีหน้าที่และอำนาจ และรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศรชล. มี ผบ.ทร. เป็น รอง ผอ.ศรชล. และ เสธ.ทร. เป็นเลขาธิการ ศรชล. การบูรณาการในการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลนั้น มุ่งเน้นความมั่นคงทางทะเลแบบองค์รวม ดังนั้นการปฏิบัติของ ศรชล. จึงเป็นการบูรณาการกำลังพล และกำลังทางเรือจากหน่วยงานหลักของ ศรชล. 7 หน่วยงาน ในการบังคับใช้กฎหมายในทะเล และให้ความคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยมีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญได้แก่ การช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในทะเล การส่งกลับผู้เจ็บป่วยสายแพทย์ การบูรณาการหน่วยงานทางทะเลและหน่วยงานความมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการสร้างความตระหนักรู้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และเพื่อให้สามารถตอบสนองภารกิจในการจัดการแก้ไขปัญหา รวมทั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานของรัฐในการป้องกัน ปราบปราม แก้ไขปัญหา รับมือสถานการณ์หรือการกระทำผิดกฎหมายที่กระทบหรืออาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเล การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งปฏิบัติการอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ศรชล.จึงได้ดำเนินโครงการ/แผนงานที่สำคัญ ได้แก่ การจัดหาเรือปฏิบัติการความเร็วสูงบริเวณชายฝั่ง การจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล เป็นต้น67 03 08 01 17

หลังจากนั้น นายสุทิน  คลังแสง รมว.กห. ในฐานะผู้แทน ผอ.ศรชล. ได้กล่าวมอบนโยบาย/แนวทางการปฏิบัติของ ผอ.ศรชล. ว่าตามที่ทุกท่านทราบกันดีว่าปัจจุบันเมื่อพิจารณาถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเลทั้งภายในและนอกราชอาณาจักร จะมีลักษณะที่หลากหลาย โดยมูลค่าทางเศรษฐกิจของทะเลประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 24 ล้านล้านบาทต่อไป อันพึงได้รับจากกิจกรรมทางทะเล อาทิ การท่องเที่ยว การพาณิชยนาวี และการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล ศรชล.ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จะต้องดำเนินการในการป้องกันรักษา และเพิ่มพูนผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในทุกมิติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และสิทธิหน้าที่อื่นใดให้เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น ท่านนายกรัฐมนตรี/ผอ.ศรชล. จึงขอมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานให้กับ ศรชล. ดังนี้67 03 08 01 20

1. การขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลความมั่นคงทางทะเล ไปสู่การเป็นหน่วยงานเฉพาะกิจร่วมที่ขับเคลื่อนด้วยฐานข้อมูลความมั่นคงทางทะเล (Maritime Data Driven Joint Inter-Agency Task Forces) เพื่อให้ ศรชล.มีกลไกตระหนักรู้สถานการณ์ทางทะเล (Maritime Domain Awareness : MDA) เชื่อมโยงกับหน่วยงานทางทะเลทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีข้อมูลเช่นเดียวกับนานาชาติ

2. การยกระดับความพร้อมในการค้นหา ช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัยทางทะเล (Maritime Search and Rescue) ให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล ตามที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) กำหนด ทำให้การเข้าช่วยเหลือได้รวดเร็วมีมาตรฐาน โดยมีการจัดหาเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยทางทะเลเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ให้พี่น้องประชาชนในทะเล ได้รับการคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน มีเรือพร้อมออกทำการค้นหาและช่วยเหลือตลอด 24  ชั่วโมง สามารถป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดขึ้นในทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ

3. การพัฒนาประสิทธิภาพการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว ในการส่งกลับผู้เจ็บป่วยสายแพทย์ ในทะเล (MEDEVAC at Sea) ให้มีมาตรฐานสากล โดยร่วมกับทุกหน่วยงานในการส่งกลับผู้ป่วยให้รวดเร็ว ถูกต้องตามวิธีทางการแพทย์ ประชาชน นักท่องเที่ยว และลูกเรือประมงในทะเลและเกาะแก่ง สามารถเข้าถึงการส่งกลับสายแพทย์ในทะเล ทำให้ผู้ประสบภัยมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและเรือสำราญขนาดใหญ่

4. การบูรณาการหน่วยงานทางทะเลและหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล (Maritime Interdiction at Sea) ในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติงานด้านการบังคับใช้กฎหมายในทะเลให้เป็นมาตรฐาน สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และมีความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค เพื่อให้ร่วมมือกันแก้ปัญหาด้วยแนวคิดเดียวกัน

5. การขับเคลื่อนสมุทราภิบาล (Maritime Good Governance) ในการสร้างความตระหนักรู้ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จังหวัดชายทะเล ชุมชน และเกาะแก่งเพื่อให้เป็นหุ้นส่วนการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (Maritime National Interest Strategic Partnership) ให้ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีการใช้ทะเลอย่างยุติธรรม รักษาไว้ให้ยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) และแนวทางการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน (SDG14)

“ ศรชล. เป็นหน่วยงานหลักในการบูณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน”

  

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้งานการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

:: ลิงค์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Scan Line ID

qr code thaimecc1

แบบวัดการรับรู้ EIT

qr code thaimecc1

ศรชล.ภาค 1

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1

  • ที่ตั้ง : หมู่ที่ 2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 20180
  • โทร. : 038 439 309
  • มือถือ : 09 5862 0506
  • Email : rmecc1@thai-mecc.go.th
  • Line ID : meoc01